ตร.คุมตัวทำแผนนาทีบีบคอโหด.. “ไอ้เอส”ร่ำไห้ขอโทษ”ผมผิดไปแล้วที่ฆ่าน้องพลอย”(คลิป)
loading...
จากกรณีนางพัชรี ปั้นทอง พร้อมด้วยนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ทนายความเดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เพื่อให้เร่งรัดติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ลักพาตัวน.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล ลูกสาวของนาง พัชรีภายหลังหายสาบสูญไปกว่า 3 ปี ที่ศูนย์บริการประชาชนฝั่งสำนักงานก.พ.เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยนางพัชรีระบุว่า ถ้าบุตรสาวยังอยู่จะมีอายุ 28 ปี ได้หายตัวไปขณะเดินทางกลับจากที่ทำงานเมื่อเดือนพ.ค. 2557 โดยมีหลักฐานชี้ว่านายพลกฤต หรือเอส วิเศษ อายุ 29 ปี อดีตสิบเอก สังกัดศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่ายพหลโยธิน จ.ลพบุรี เป็นคนลงมือฆ่าน้องพลอย มีความผิดหลังศาลทณฑลทหารบกที่ 18 อนุมัติหมายจับที่จ.1 ก./60 ลงวันที่ 15 ส.ค.60 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะทำให้เสียทรัพย์ ลอบฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของศพ เพื่อปิดบังการตาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 17 ส.ค. ที่สภ.แก่งคอย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยาการบริเวณด้านหน้า สภ.แก่งคอย มีผู้สื่อข่าวรอการทำแผนประคำรับสารภาพของนาย พลกฤต หลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาดัวกล่าว เดินทางมาจากออก กองบังคับการปราบปรามตั้งแต่เมื่อช่วงเย็น ของวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายเอสไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจำนวน 8 จุดสำคัญ คือ จุดที่ 1 ผู้ต้องหาลักพาตัวน้องพลอย หน้าโรงงานของน้องจังหวัดอยุธยา จุดที่ 2 ทิ้งโทรศัพท์ บริเวณที่เลยหน้าโรงงานของน้องพลอย จุดที่ 3 จุดจอดรถยนต์นิสสัน บีบคอน้องพลอยจนเสียชีวิต จุดที่ 4 ทิ้งจักรยาน ที่สะพานข้ามคลองชลประทาน จุดที่ 5 บริเวณที่ผู้ต้องหาเข้าไปเอายางรถยนต์ค่ายทหาร จุดที่ 6 จุดที่ทิ้งทรัพย์สินในถังขยะ จุดที่ 7 ซื้อน้ำมัน จุดที่ 8 จุดเผาอำพรางศพน้องพลอย
เวลา 08.00 น. นายวิชา ผลิผล อายุ 53 ปี บิดาของน้องพลอย ได้เดินทาง มารอพบหน้านายเอส โดยเปิดเผยว่า ตนเดินทางมาเพื่อดูหน้าตัวผู้ต้องหา ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เจอ ถ้าเจอหน้าผู้ต้องหาก็อยากจะถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ เขาจะรู้มั้ยว่าเขาไม่ได้ฆ่าแค่น้องพลอยเพียงคนเดียว แต่เขาฆ่าจิตใจพ่อและแม่น้องพลอยด้วย แม่น้องพลอยเฝ้ารอน้องพลอยทุกวัน รอเป็นเวลา 3 ปีแล้ว ซึ่งทางครอบครัวน้องพลอยจะไม่มีวันให้อภัยเด็ดขาด
ต่อมาเวลา 08.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพล.ต.ต.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ได้เดินทางเข้ามายังสภ.แก่งคอย เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดี ก่อนจะเปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ที่สภ.แก่งคอย เมื่อคืนนี้ได้ร่วมสอบสวนผู้ต้องหาเพิ่มเติม ร่วมกับมณฑลทหารราบที่ 18 รักษาพระองค์ และได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.ท่าเรือมาร่วมสอบปากคำเพิ่มติมด้วย ซึ่งผู้ต้องหามีท่าทีอิดโรย ถามคำตอบคำ ไม่ได้เรียกร้องอะไรเพิ่มเติม หลังจากสอบสวนเสร็จในเวลา 01.00 น. ผู้ต้องหาก็ขอตัวไปนอนเลย แต่ก็มีความคืบหน้าไปมากแล้ว ทุกอย่างอยู่ในสำนวนหมดแล้ว
loading...
เวลา 10.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายเอส พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่า 20 นาย คุมตัวผู้ต้องหาอย่างอย่างแน่นหนา ก่อนนำขึ้นรถตู้ เพื่อเดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
พล.ต.ต.ชัยรัตน์ เปิดเผยว่า ระหว่างนี้ได้เตรียมตัวนำผู้ต้องหาไปประกอบคำรับสารภาพ ทั้ง 8 จุด โดยจะเริ่มทำในจุดที่ 1 เป็นจุดที่นายเอสลักพาตัวน้องพลอย ไปกระทั่งจุดสุดท้ายจุดที่ 8 อยู่ในพื้นที่ทั้งหมด 3 จังหวัดได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี และจังหวัดสระบุรี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสระบุรีได้เตรียมกำลังไว้ทั้งหมด 50 นาย เพื่อดูแลความเรียบร้อย และทางจังหวัดอยุธยาก็ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วเช่นเดียวกัน หลังจากจากเสร็จการทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้วก็จะนำตัวนายเอสกลับมาควบคุมที่สภ.แก่งคอยอีก 1 วัน โดยในวันพรุ่งนี้ก็จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่มณฑลทหารบกที่ 18 ซึ่งหลังจากนี้ก็จะหมดอำนาจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ต่อไปก็เป็นเรื่องดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ทหารแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายเอสมาทำแผนจุดที่ดักอุ้มตัวน้องพลอยขึ้นรถนิสสัน โดยมีประชาชนหลายร้อยคนรอดูหน้าฆาตกรโหด พร้อมตะโกนสาบปแช่งเสียงดังสนั่น เรียกร้องให้ลงโทษประหารผู้ต้องหาให้ตายตกไปตามกัน นอกจากนี้นางพัชรี และนายวิชา แม่และพ่อของน้องพลอยก็มารอดูหน้าฆาตกรด้วย
โดยตำรวจคุมตัวนายเอสลงจากรถตู้แล้วไปทำแผนตอนที่ดักอุ้มน้องพลอยขึ้นรถเก๋ง เอาจักรยานของน้องพลอยใส่ที่เบาะหลัง ก่อนที่จะเกิดปากเสียงกันรุนแรงแล้วลงมือบีบคอฆ่าน้องพลอยจนเสียชีวิต
จากนั้นตำรวจได้นำตัวนายเอสกลับไปขึ้นรถตู้ ท่ามกลางเสียงตะโกนสาปแช่ง จากนั้นนายวิชาได้เข้าไปที่รถตู้สอบถามนายเอสว่าทำไมต้องฆ่าน้องพลอย เช่นเดียวกับนางพัชรีที่เข้าไปถามเช่นเดียวกัน โดยนายเอสได้แต่ร้องไห้บอกว่า “ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้วที่ฆ่าน้อง”
Comments
Post a Comment