เก็บหลักฐานคาร์บอมบ์พบใช้ถังแก๊ส 100 ก.ก. วงจรปิดจับภาพ4คนร้าย โยงบึ้มรร.เซาท์เทิร์นวิว (คลิป)

loading...

กรณีคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ที่ห้างบิ๊กซี อ.เมืองปัตตานี เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อหวังที่จะก่อวินาศกรรมให้เกิดความรุนแรงและแสดงศักยภาพในการก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ต้องได้รับผลกระทบมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 50 ราย ทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก ที่สำคัญของการก่อเหตุคือคนร้ายปล้นรถกระบะของประชาชนนำมาก่อเหตุ โดยที่ยังไม่ทราบว่าเจ้าของรถมียังมีชีวิตอยู่หรือไม่


อ่านข่าว คาร์บอมบ์ใต้-เจ็บ 61 “บิ๊กซี”ยับ หนีตายอลหม่านกลาง“ปัตตานี”

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางห้างปิดทางเข้าออกห้ามไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในบริเวณห้าง นอกจากเจ้าหน้าที่และพนักงาน โดยจะมีพนักงานคอยเฝ้าประตูตลอดเวลา ขณะที่ความเสียหายนั้นยังคงอยู่ในสภาพเดิม ซึ่งทางห้างยังไม่สามารถรื้อหรือซ่อมแซมได้ เพราะต้องรอเจ้าหน้าที่เข้าตรวจดำเนินการในทางคดีก่อนที่จะมีเคลียร์พื้นที่ให้เรียบร้อย สำหรับบรรยากาศหลังเกิดเหตุก็มีประชาชนเดินทางมาดูความเสียหายที่เกิดขึ้นจำนวนมาก

โดยในเช้าที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน กว่า 30 นาย เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาวัตถุพยานอีกครั้ง หลังจากเมื่อวานนี้หลังเกิดเหตุเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการได้

loading...

โดยเจ้าหน้าที่มีการกระจายกำลังจัดแถวหน้ากระดานเดิน เพื่อค้นหาวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องกับเหตุคาร์บอมบ์ โดยเฉพาะชิ้นส่วนระเบิด ซึ่งเบื้องต้นก็พบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุนั้นเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่มีการประกอบและเชื่อมต่อวงจรเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพียงนำมาวางไว้ในรถ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าระเบิดบรรจุในถังแก๊สจำนวน 2 ลูก น้ำหนักเกือบ 100 กิโลกรัม เพราะดูจากความรุนแรงที่คล้ายกับเหตุการณ์ลอบว่างระเบิดโรงแรมเซาท์เทิร์นวิว ปัตตานี เมื่อกลางปีที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตรวจจุดด้านหน้าห้างที่คนร้ายจอดรถซากรถยนต์เหลืออยู่ โดยเฉพาะบริเวณด้านหน้าหลังคา และจุดตรวจรถ ในบริเวณนั้นเสียหายทั้งหมด เจ้าหน้าที่และเตรียมกำลัง เดินกระจายเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทุกตารางนิ้ว เพื่อเก็บหาพิสูจน์หาหลักฐาน ที่เกิดเหตุพบเศษซากระเบิดที่ปลิวกระเด็นกระจุย กระจายอยู่เต็มลานจอดรถหลังคา ลานจอดเสียหายจากไฟไหม้เสียหายทั้งหมด กินบริเวณกว้างกว่า 300 เมตร พบเศษซากรถจักรยานยนต์ คันหนึ่งกระเด็นข้ามมาไกลถึงถนนอีกฝั่งหนึ่ง

จากแรงระเบิดบริเวณลานจอดรถได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิด และส่วนใหญ่จากไฟลุกไหม้ เบื้องต้นมีรถยนต์เสียหายจากแรงระเบิด 24 คัน จักรยานยนต์ไม่ต่ำกว่า 30 คัน บริเวณด้านหน้าของห้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโซนร้านอาหารได้รับความเสียหายทั้งหมด ยังประเมินความเสียหายไม่ได้

ขณะที่ความคืบหน้าในการติดตามคนร้ายนั้น ล่าสุดหลังจากที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ก็พบว่าคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุมีทั้งหมด 4 คน โดย 2 คนเป็นคนนำรถคาร์บอมบ์ขับเข้ามาจอด ส่วนอีก 2 คนขี่รถจักรยานยนต์มาจอดรอด้านหน้าห้าง

ซึ่งแนวทางการสืบสวนขณะนี้เจ้าหน้าที่มีเบาะแสของคนร้ายทั้งหมดแล้วว่าใครเป็นใคร หลังจากได้ตรวจสอบรูปพรรณสัณฐานของทั้ง 4 คน จากภาพวงจรปิดมีลักษณะตรงตามข้อมูลและแฟ้มประวัติคดีความมั่นคง เพียงรอผลการยืนยันจากพยานหลักฐานอื่นๆ มาประกอบ

โดยในเบื้องต้นกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมีความเชื่อมโยงกับมือระเบิดที่เคยถูกออกหมายจับแล้ว 2 คน คือนายอับดุลเลาะ สาแม หมายจับคดีเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ร้านอาหาร มิดติ้ง ติดกับฐานนปพ.ใกล้ฐานตะวัน ปัตตานีคอนกรีต เมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 26 กพ.2559 และนายฮาริม ดอเลาะ คดีระเบิดคาร์บอมโรงแรมเซาท์เทิร์นวิว ปัตตานี เมื่อวันที่ 24 สค.2559 นอกจากนี้ อาจจะเชื่อมโยงกลุ่มของนายเสรี แวมามุ และ นายบูคอลี หลำโซ๊ะ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งทั้งสองคนอาจจะเข้ามาร่วมก่อเหตุในการปล้นรถกระบะของนายนุสน ขจรดำ ชาวจังหวัดยะลา

ในส่วนของการติดตามค้นหาตัว นายนุสนเจ้าของรถนั้น ทางพล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน จ.ปัตตานีและ สภ.หนองจิก ประสานกับผู้นำท้องถิ่นให้ค้นหานายนุสนว่าอยู่ในพื้นที่หรือยังมีชีวิตหรือไม่ เนื่องจากหลังเกิดเหตุได้ติดตามสัญญาณโทรศัพท์มือถือก็พบว่า มีการใช้มือถือและขาดการติดต่อล่าสุดบริเวณ ต.มะพร้าวต้นเดียว อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

ซึ่งเชื่อว่านายนุสนน่าจะถูกคนร้ายลวงให้มาติดตั้งผ้าใบในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากคนร้ายรู้ว่านายนุสนทำงานไปไหนมาไหนเพียงลำพังคนเดียว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนต่างระดมกำลังช่วยกันตามหานายนุสนอย่างเต็มที่ แต่ยังไม่ทราบว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่

https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_341524

Close

Advertiser

loading...